[Fic Harry Potter | DMHP] #drarry_weeklyth รถไฟ

#drarry_weeklyth #45

[TRAIN]

Pairing : Draco Malfoy x Harry Potter


แฮร์รี่คิดว่าวันนี้ตัวเองค่อนข้างประสบความสำเร็จในชีวิตเลยวันหนึ่ง

ร่างผอมในชุดพอดีตัวสีเข้มพร้อมแจ็คเก็ตตัวเก่งกำลังสำรวจตัวเองอยู่หน้ากระจกมาได้พักหนึ่งแล้ว แม้นี่มันออกจะแปลกประหลาดไปสักหน่อยสำหรับเขาที่ปกติแล้วก็ไม่ค่อยจะพิถีพิถันในการแต่งตัวก็ตาม

ทั้งหมดนี่ก็เพราะ…

“โถ่ แฮร์รี่! เธอกำลังจะออกไปเดทนะ เธอควรที่จะแต่งตัวให้มันดีๆ กว่านี้” เพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียวของเขาว่า

“จำเป็นด้วยอ่อ?” คนที่นั่งทำหน้าซังกะตายข้างๆ เธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงยานคางจนโดนตีไปหนึ่งที

“…” แต่เขาก็เผลอคิดตามนั้นจริงๆ

มันจำเป็นด้วยเหรอ?

แต่ก็เลือกที่จะเงียบไว้ ไม่พูดออกไป ทำเพียงยิ้มหน้านิ่งเพื่อป้องกันตนเองจากฝ่ามือพิฆาตของเพื่อนสาว

“อย่างน้อยมันก็เป็นการให้เกียรติคนที่เราไปออกเดทด้วยเข้าใจไหม ถึงจริงๆ แล้วมันจะไม่ใช่การเดทเพราะพวกเธอก็คบกันแล้วก็เถอะ แต่อย่างน้อย การแต่งตัวที่ดีก็จะทำให้เธอไม่โดนมองแย่ๆ เวลาที่เดินข้างเขาหรอกนะ”

เข้าใจแล้ว…

หลังจากโดนเฮอร์ไมโอนี่ร่ายยาวไปแบบนั้น สุดท้ายแฮร์รี่จึงต้องมาหยิบจับชุดนั่นนี่ออกจากตู้เป็นการใหญ่ หมุนตัวหน้ากระจกก็หลายรอบพอสมควร เมื่อคิดว่าชุดที่ใส่และผมที่อย่างน้อยก็หวีแล้วเริ่มเข้าที่ ต่อไปก็คือสถานที่นัดพบ

ที่บอกว่าประสบความสำเร็จในชีวิตน่ะก็เพราะ…

พวกเขานัดเที่ยวกันในลอนดอน

ไม่ใช่ตรอกไดแอกอน ฮอกมีดส์ หรือทะเลสาบหลังโรงเรียนอีกแล้ว

เวลาเพียงชั่วพริบตาเดียว แฮร์รี่ก็พาตัวเองหายตัวมาปรากฏหยุดอยู่ในจุดลับตาคนของสถานีรถไฟกริงส์กรอสได้สำเร็จ

แฮร์รี่ก้มสำรวจตัวเองอีกครั้ง มือพยายามจับๆ ดึงๆ เสื้อให้เข้าที่มากที่สุด แลเวก็ย้ายไปจัดทรงผมตัวเองต่อ อย่างน้อยก็มีความหวังว่าตอนเจอครั้งแรกก็ให้ออกมาดูดีจนสะดุดตาใครอีกคนบ้างก็ยังดี

ครั้นเงยหน้าขึ้นมา ลมหายใจของแฮร์รี่ก็แทบสะดุด เมื่อคนที่นัดกันไว้ก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าเรียบร้อยแล้ว

เมอร์ลินเถอะ! เขาจะไปเป็นนายแบบอะไรที่ไหนรึไง!!

แฮร์รี่นึกอย่างหัวเสีย รู้สึกอยากหายตัวกลับไปที่บ้านอีกรอบเพื่อแต่งตัวใหม่ให้มันรู้แล้วรู้รอด แต่คนที่กำลังก้าวย่างอย่างมั่นคงตรงมาทางเขานั้นเหมือนจะสังเกตเห็นแฮร์รี่เข้าเสียแล้ว ให้หายตัวไปตอนนี้ก็คงจะไม่ทันอย่างแน่นอน

เจ้าของเรือนผมสีดำสนิทถอนหายใจด้วยความปลง

“วันนี้ดูดีนะ”

คำทักทายแรกที่ไม่ใช่สวัสดีหรืออรุณสวัสดิ์ซึ่งออกมาจากปากของอีกคนเกินคาดแฮร์รี่ไปมาก ดวงตาที่หลบอยู่หลังเลนส์ใสเบิกกว้างเล็กน้อยก่อนจะเสหลบไปอีกทาง ไม่เงยหน้าสบตาคนพูดที่เริ่มขยับเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ด้วยความประหม่า

ริ้วแดงจางพาดผ่านสองแก้ม ดวงตาหลุบมองเสื้อผ้าของตัวเองอีกครั้ง

“อะไรเนี่ย นายเอาแป้งมาโรยหัวเหรอ”

“ฮะ? เฮ้ย!!”

แฮร์รี่ที่ยังก้มหน้าหนีคนตรงหน้าอยู่ จู่ๆ ก็ถูกฝ่ามือใหญ่วางลงบนกลุ่มผม ขยี้อย่างแรงจนเส้นผมที่ถูกหวี..จัดทรงมาเล็กน้อยถูกทำให้ยุ่งจนฟู ยุ่งจนเหมือนกลับไปเป็นแฮร์รี่คนเดิมอย่างไรอย่างนั้น

“ทำไรเนี่ยมัลฟอย!!”

“ก็บอกว่าหัวนายมีผงไรไม่รู้ขาวๆ ติด ไม่ได้สระผมเลยเอาแป้งโรยรึไง”

“ไม่ใช่โว้ย!”

คนตัวเล็กโวยวายหน้าดำแดง แต่คนที่ขยี้ผมอีกฝ่ายจนพอใจก็ละมือออกมาแล้วปัดมือทั้งสองข้างเข้าหากัน ดวงตาเรียวคมหรี่มองคนข้างกายที่กำลังพยายามยื่นมือไปจัดผมตัวเองอีกครั้งแล้วกระดกยิ้มที่มุมปาก

“ไปได้แล้ว รถไฟกำลังจะมา”

แฮร์รี่รับคำเสียงเบา มือทั้งสองยังคงสาละวนกับเส้นผมตัวเอง จนเดรโกต้องเป็นฝ่ายยื่นมือไปจับมือเล็กข้างหนึ่งมากุมเอาไว้แล้วดึงอีกคนให้เดินไปตามทางด้วยกัน

แม้จะไม่ใช่ช่วงชั่วโมงเร่งด่วน แต่รถไฟก็ยังคงแน่นขนัดไปด้วยคนจำนวนหนึ่งอยู่ดี

เดรโกดูขัดใจนิดหน่อยกับรถไฟของที่นี่ ที่ไม่เหมือนกับรถไฟที่นั่งไปฮอกวอตส์

เมื่อคนสองคนก้าวเข้ามาในรถไฟได้สำเร็จ ก็ไม่มีที่นั่งสำหรับพวกเขาแล้ว เดรโกมีท่าทางฮึดฮัดเล็กน้อยแต่ก็ดึงมือแฮร์รี่ไปมุมหนึ่งของรถไฟและยืนพิงชิดผนังไว้ คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากันเมื่อต้องพาตัวเองเข้ามาอยู่ท่ามกลางพวกมักเกิล แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้รังเกียจเท่าทีแรก แต่ก็ยังรักษาระยะห่างการเข้าใกล้เสมอจนแฮร์รี่ได้แต่ยิ้มอ่อนใจ

ผ่านไปสถานีแล้วสถานีเล่า คนที่เข้ามาในขบวนรถไฟก็เพิ่มมากขึ้น จากที่ยืนข้างกันด้วยพื้นที่โล่งกว้างสบายๆ เดรโกก็เริ่มขยับเข้าใกล้แฮร์รี่มากยิ่งขึ้น พอคนเริ่มแออัดมากขึ้น พื้นที่ตรงหน้าแฮร์รี่ก็เริ่มมีคนขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

กว่าต่างฝ่ายจะรู้ตัวว่าโดนคนเบียดเข้ามาขนาดไหน ก็ตอนที่แฮร์รี่รู้สึกได้ว่ามีลมหายใจเป่ารดอยู่เหนือศีรษะของตนเองบางๆ เคล้าด้วยกลิ่นน้ำหอมจางๆ ที่ลอยมาแตะจมูก เป็นกลิ่นที่แฮร์รี่จำได้ดีว่าเป็นกลิ่นประจำที่เดรโกมักจะชอบใช้ และมันไม่ได้ฉุนจนเกินไป

ทั้งที่ไม่นาน แต่เหมือนชั่วกาลจนแทบหมดลมหายใจ

แฮร์รี่เหลือบตามองคนตรงหน้าที่กำลังเท้าแขนกับผนังด้านหลังของเขาเพื่อเป็นที่ยึดในการทรงตัวด้วยใบหน้าเห่อร้อน แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาใกล้ชิดกันแบบนี้ แต่ก็ใช่ว่าจะชินชาเสียทุกครั้งที่ใกล้กัน แม้เดรโกจะยังเว้นระยะห่างพื้นที่ให้แฮร์รี่ได้ขยับและหายใจได้สะดวก แต่สำหรับคนที่ถูกกักไว้ในวงแขนอีกฝ่ายกลายๆ แบบนี้ก็อดจะรู้สึกประหม่าไม่ได้

รถไฟที่โคลงเคลงไปมาทำให้ผู้คนในขบวนพากันเสียการทรงตัว แม้แต่เดรโกที่แม้จะยันแขนเอาไว้ก็ยังทรงตัวไว้ไม่อยู่ แขนข้างที่ว่างถูกแฮร์รี่จับเอาไว้พลางดึงเข้าหาตัวเพื่อกันไม่ให้อีกฝ่ายไปชนคนที่อยู่ด้านหลัง

พอกลับมาทรงตัวกันได้ ทั้งเดรโกและแฮร์รี่ก็แทบจะหยุดหายใจลงไปทันทีกับระยะห่างที่แนบชิดกันมากขึ้น ครั้นเดรโกจะผละตัวออกห่างก็ติดที่ว่าคนด้านหลังมายืนแทนที่ไปเสียแล้ว

ท่าทางชวนให้ใจกระตุกแบบนี้ทำให้แฮร์รี่ตั้งตัวไม่ถูก ลมหายใจถูกหยุดไว้ไม่กล้าผ่อนออกไป รู้สึกว่าตัวเองช่างลีบเล็กลงกว่าทุกทีจนอยากจะแทรกผนังรถไฟหนี และเพราะเดรโกที่ไม่ได้สูงลิ่วไปกว่าแฮร์รี่เท่าใด ทำให้ระยะทีใกล้ชิดกันจนเหมือนเดรโกกำลังจะหอมหัวแฮร์รี่อยู่กลายๆ

ริมฝีปากบางเม้มแน่น ใบหน้าหลังกรอบแว่นเอียงลงเล็กน้อย ก้มหลบสายตาคมที่มองลงมา แม้ลึกๆ จะอยากมองดูสภาพรอบกาย แต่พอเงยหน้าก็เจอแผงอกกว้างตรงหน้าระยะใกล้แบบนี้ สู้ยอมก้มหน้ามองพื้นเฉยๆ ดีกว่า

ดวงตาสีเทาหรี่มองเล็กน้อย รู้สึกกลืนน้ำลายลงคอได้ฝืดเคืองกว่าทุกทีเช่นกัน มือข้างที่ว่างยกขึ้นถูปลายจมูกตัวเองจนแดงเล็กน้อยก่อนจะเบนใบหน้าไปอีกทางเพื่อหลบซ่อนสีหน้ากระอักกระอ่วนของตัวเอง

ทั้งสองก็ได้แต่ภาวนาว่าสภาวะเบียดเสียดนี้จะจบลงโดยเร็ว

หลังจากพาตัวเองมาจนถึงสถานีปลายทางได้ ทั้งเดรโกและแฮร์รี่ก็พากันถอนหายใจโล่งอก ต่างฝ่ายต่างหันหน้ากันไปคนละทางเพื่อปรับลมหายใจของตัวเองอย่างไม่มีการปิดบัง 

ท่าทางเลิ่กลั่กไปมา ลนลานมองซ้ายขวาอย่างคนทำอะไรไม่ถูก ถ้าหากมีใครที่คิดจะสนใจมองพวกเขาสักหน่อยก็คงจะงุนงงมองด้วยความสงสัยกันไปหมดแล้ว 

กว่าจะดึงสติตัวเองกลับมาปัจจุบันได้ ก็ตอนที่รถไฟเริ่มเคลื่อนตัวออกจากชานชาลาไป และผู้คนก็เริ่มเดินห่างออกไปจนเหลือเพียงพวกเขาสองคนยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

เป็นฝ่ายเดรโกที่ขยับเข้ามาประชิดอีกครั้ง ตาคมกดมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่แฮร์รี่ก็อ่านไม่ออก ฝ่ามืออุ่นร้อนคว้ามาจับมือเล็กกว่าไว้ อีกฝ่ายกระตุกมือเป็นสัญญาณให้เดิน แฮร์รี่เหล่ตามองนิดๆ และเดินตามอีกคนไปเงียบๆ ตลอดทาง ไม่แม้แต่จะปริปากสักคำ ผู้คนที่ยังเบียดเสียดภายในตัวสถานีเหมือนเดิมทำให้เดรโกถอนหายใจ

ระหว่างเส้นทางที่เดินออกจากสถานีที่แสนเงียบงันระหว่างคนทั้งสอง ก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาพร้อมกัน ว่าขากลับถ้าหากพวกเขาจะไม่หายตัวกลับแล้วล่ะก็ ต้องไม่กลับรถไฟในช่วงเวลาเร่งด่วนอีกต่อไป!

เพราะถ้าหากจะให้ยืนต้องยืนอยู่ในรถไฟด้วยหัวใจที่เต้นรัวไม่เป็นจังหวะกว่าสิบสถานีอีกครั้ง คิดว่าตัวเองคงได้หัวใจล้มเหลวก่อนถึงบ้านไปก่อนแน่นอน

แค่นี้ก็เป็นการเริ่มการเดทที่เหนื่อยเสียจริงๆ

FIN


#CLDMHPwhis

กลับมาอย่างไม่เป็นทางการค่าาาาา หลังจากห่างหายการเขียนฟิคไปเยอะ นี่เรื่องแรกของปี 2020 เลยมั้งคะนี่ 555555

หัวข้อนี้จริงๆ ก็แอบลังเลนิดหน่อยแต่เพราะช่วงนี้นั่งรถไฟบ่อย บวกกับนึกถึงบรรยากาศแบบมีคนมาคอยกันในรถไฟละมัน….. ///////

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ