Help me, please
Pairing : Yaotome Gaku x Tsunashi Ryunosuke
Theme : Machanical Lullaby
________________________________________
ตุ๊กตาจักรกลชั้นสูงนายหนึ่งกำลังมีสีหน้าหงุดหงิดปนอิดโรย ร่างสูงโปร่งของเจ้าตัวเดินจ้ำอ้าวไปบริเวณหลังคฤหาสน์ของตน ที่ตรงนั้นซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอาคารหลังเล็กสำหรับให้พวกตุ๊กตาจักรกลชั้นล่างในอาณัติของตนเองอาศัยอยู่
แต่แล้วยังไง? เขาไปที่นั่นจนแทบนับครั้งไม่ถ้วนแล้วด้วยซ้ำ
กาคุเดินเข้ามาในบริเวณที่ว่าพร้อมแผ่รังสีกดดันออกมา จนตุ๊กตาจักรกลต่ำศักดิ์กว่าที่อยู่ในที่นั้นด้วยพากันก้มหัวให้แทบไม่ทัน แต่กาคุก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก เขารีบเดินไปยังอาคารหลังหนึ่งที่ซึ่งพิเศษกว่าหลังไหนๆ ของบรรดาตุ๊กตาจักรกลชั้นล่างตัวอื่น
หลังจากกาคุเดินผ่านไป ตุ๊กตาตัวอื่นก็พากันมองไปที่อาคารหลังนั้นด้วยสายตาอาทร ในใจได้แต่ภาวนาหวังว่าขอคนในอาคารหลังนั้นจะไม่เป็นอะไร ไม่รู้ว่ากาคุไปโกรธอะไรมาหรือเจ้าของอาคารนั้นไปทำอะไรให้เจ้านายโกรธได้ขนาดนี้ แต่บทลงโทษที่มักจะได้รับนั้นก็ดูจะไม่ได้เลวร้ายอะไร(?) นอกเสียจากเสียงครางหวานที่ดังระงมไม่หยุด และไม่เห็นตัวเจ้าของเสียงไปประมาณ 2 วัน
‘โชคดีนะ ริวโนะสุเกะคุง’
ฝ่ามือหนาหมุนเปิดลูกบิดเข้าไปในอาคารแทบจะทันทีที่มาถึง ริมฝีปากอ้าออกเตรียมจะเรียกคนที่คาดว่าน่าจะซ่อมอะไรซักอย่างอยู่ในห้องชะงักลง ในห้องมีเพียงความว่างเปล่าและข้าวของที่ถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบตามนิสัยเจ้าของห้อง กาคุพ่นลมหายใจเหนื่อยอ่อนออกมา ท่าทางหงุดหงิดหายวับไปทันที
“นายอยู่ไหน…ริว”
กาคุพึมพำได้เท่านั้น ร่างกายก็เซไปมาเล็กน้อย ไม้เท้าที่ใช้ค้ำยันตัวเองมาซักพักหล่นกระทบพื้นเสียงดัง ร่างสูงโปร่งเดินซวนเซเข้าไปหาเตียงกว้างในสุดของห้องก่อนจะทิ้งตัวลงนอนอย่างหมดแรง
ตุ๊กตาจักรกล…จริงอยู่ที่ว่าอาจจะไม่ป่วยเหมือนกับมนุษย์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีส่วนเสียหาย
….
ร่างสูงใหญ่เจ้าของเส้นผมสีน้ำตาลเดินเข้ามาในส่วนของที่พักของตนพร้อมถุงอะไหล่อีกมากมายที่เจ้าตัวออกไปหาซื้อมาตลอดค่อนวัน ริวยิ้มดีใจกับตัวเองที่สามารถหาอุปกรณ์มาได้มากขนาดนี้ เหตุผลนั้นก็เพราะการอนุเคราะห์เล็กๆ น้อยๆ จากคุณลุงร้านซ่อมของในเมืองที่เขาเคยอาศัยอยู่ด้วย แถมวันนี้เขายังได้มีโอกาสร่วมโต๊ะกินข้าวกับเขาอีก
เดินไปฮัมเพลงไปไม่ได้รีบร้อนอะไร จนกระทั่งริวรู้สึกได้ว่ามีคนกำลังจับจ้องตนเองอยู่
“ริว นายไม่ได้อยู่ในห้องเหรอ?” เสียงทักจากชายร่างเล็กที่นั่งอยู่หน้าห้องถามด้วยความสงสัย
“นั่นสิ พวกเราก็นึกว่านายอยู่” อีกคนเสริมทัพมาด้วย
“เปล่านะครับ วันนี้ผมออกไปซื้อของมา” ริวตอบกลับอย่างงุนงงพลางยกถุงในมือในสองข้างขึ้นโชว์
“เวรละไงสึนาชิ”
“ครับ?” ริวยิ่งสงสัยหนักเข้าไปใหญ่ ศีรษะทุยเอียงมองเพื่อนร่วมงานตัวเอง
“ท่านกาคุมาหานายตั้งแต่บ่ายแล้ว ตอนนี้ยังไม่เห็นออกห้องนายมาเลย”
เส้นสติริวแทบจะขาดผึงทันที โดยไม่ทันได้พูดคุยอะไรกันอีก ริวรีบวิ่งกลับไปที่อาคารของตัวเองแทบจะทันที ไม่แม้แต่จะทันได้เอ่ยขอบคุณอย่างทุกที ส่วนชายหนุ่มสองสามคนที่เป็นคนบอกข่าวก็ได้แต่มองตามด้วยความเป็นห่วงเงียบๆ
“กาคุ!”
ริวแทบจะทะลุชนเข้ากับประตูแล้วด้วยซ้ำ ยังดีที่มีสติพอจะหมุนลูกบิดเข้ามาภายในห้อง ร่างสูงใหญ่หอบแฮ่ก ก่อนจะรีบกวาดสายตามองไปในห้อง
ถุงอะไหล่สองถุงถูกวางทิ้งไว้กลางห้องอย่างไม่ใยดี ไม้เท้าที่ถูกวางทิ้งไว้ที่พื้นถูกเก็บขึ้นมากำไว้ในมือแน่น ก่อนจะรุดพาร่างของตัวเองไปที่เตียงนอนที่มีใครอีกคนนอนอยู่อย่างรวดเร็ว
“กาคุ…นายเป็นอะไร นี่กาคุ ตื่นสิ”
ริวเอ่ยด้วยเสียงสั่นๆ พลางตบแก้มคนที่นอนอยู่เบาๆ เพื่อเรียกสติ แต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีทีท่าว่ากาคุจะรู้สึกตัวเลยสักนิด ริวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกเรียกสติของตัวเองก่อนจะเริ่มสำรวจร่างกายอีกคน
เพราะริวเป็นช่างซ่อมที่มีความสามารถมากที่สุดคนหนึ่ง เขาจึงรู้สึกได้เลยทันทีว่าของชิ้นไหนมีความผิดปกติ ไม่เว้นแม้แต่ตัวตุ๊กตาจักรกลเช่นนี้เอง เสียงฟันเฟืองอะไรก็แล้วแต่ในร่างกายของกาคุมันฟังดูไม่ปกติจากเดิม ทำให้ริวรู้ว่าอีกคนกำลังมีปัญหา
แล้วตั้งแต่ที่ริวเข้ามาอยู่ที่นี่ ทุกครั้งที่ตัวกาคุมีแผลหรือรู้สึกว่าอะไหล่ตัวไหนที่เริ่มมีปัญหาริวจะเป็นคคนที่คอยซ่อมให้อยู่เสมอ
กาคุไม่ให้ใครแตะตัวอีกเลยนอกจากริว
เสื้อผ้ามากชิ้นของกาคุถูกริวปลดออกจนหมด แผลภายนอกอย่างแรกที่เห็นทันทีคือบริเวณแขนที่มีร้าวแตก รวมถึงบริเวณหน้าท้องของอีกคนที่มีส่วนยุบลงไปบ้าง นอกจากนั้นตามลำตัวก็มีแผลถลอกอีกบ้างประปราย
“ให้ตายสิกาคุ นายไปทำอะไรมา”
ริวว่าด้วยเสียงสั่นๆ เขาไม่เคยเจอกาคุสภาพพังขนาดนี้มาก่อน ถุงอะไหล่ที่นำมาด้วยถูกรื้อค้นอย่างรวดเร็วเพื่อหาวัสดุอุปกรณ์ที่จะมาช่วยชีวิตอีกคน เหตุผลที่กาคุไม่ฟื้นนั่นก็คงเพราะกลไกร่างกายที่ปิดไปชั่วคราวเพื่อให้ซ่อมแซมตัวเอง แต่มันก็ไม่ได้มากพอที่จะช่วยรักษาให้หายได้จนกลับมาเป็นปกติ
ตุ๊กตาช่างซ่อมนึกคาดโทษคนที่นอนไม่รู้เรื่องในใจ เป็นหนักขนาดนี้แทนที่จะไปหาหมอแทนมาหาเขาแท้ๆ
แต่ถึงจะคิดอย่างนั้น ริวก็หวงร่างกายนี้ของกาคุเหมือนกัน ไม่อยาก…ให้ใครแตะต้องนอกจากเขาเอง
…….
นิ้วเรียวขาวขยับเล็กน้อยเมื่อร่างกายรู้สึกฟื้นตัวจนตื่นขึ้นมาได้ เปลือกตาบางกะพริบถี่ๆ เพื่อปรับแสงก่อนจะเปิดออกเผยให้เห็นดวงตาสีเทาเข้ม
“อา… หืม?”
ในระหว่างที่กำลังจะพลิกตัว กาคุกลับรู้สึกว่ามือของเขากำลังถูกกอบกุมอยู่ เมื่อหันไปตามดูก็พบว่ามีใครอีกคนกำลังนอนฟุบหลับข้างเตียงโดยที่กุมมือของกาคุไว้แน่น
ร่างของตุ๊กตาชั้นสูงคล้ายจะนึกออกว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน เขาก้มมองตัวเองก่อนจะพบว่าบาดแผลที่ช่วงท้องรวมถึงแขนและแผลเล็กๆ ตามตัวมากมายถูกซ่อมแซมไปหมดแล้ว แม้แผลใหญ่อย่างที่แขนจะยังมีเทปปิดอยู่แต่อีกไม่นานมันก็จะถูกแกะออก
“อือ..กาคุ อย่าเป็นอะไร…”
เสียงพึมพำละเมอของริวเรียกรอยยิ้มของกาคุให้ผุดขึ้นบนริมฝีปาก กาคุก็ไม่รู้หรอกว่าแผลของเขาวันนี้มันเรียกว่าหนักไหม แต่สภาพรอบตัวอย่างเศษอะไหล่หลายชิ้นและอุปกรณ์หลายอย่างวางเกลื่อน รวมถึงคนของเขาที่นอนฟุบหมดสภาพแบบนี้ อาจจะหนักก็ได้
“ริว ตื่นได้แล้วมั้ง”
เพียงเสียงเรียกเบาๆ ริวก็แทบจะผงกหัวตื่นขึ้นมาทันทีจนกาคุตกใจผงะไปเล็กน้อย ถ้าไม่ได้เห็นกับตาว่าเมื่อกี้ริวฟุบหลับลมหายใจสม่ำเสมออยู่ เขาคงคิดว่าอีกคนแค่แกล้งนอนไปแล้ว
“กาคุ!!”
“อึก! ร..ริว”
ตุ๊กตาจักรกลชั้นล่างกระโจนตัวเข้ากอดใส่ตุ๊กตาตรงหน้าทันที กาคุกระอักเล็กน้อยจนรู้สึกเหมือนน็อตข้างในตัวมันมีอันไหนหลุดสักชิ้น เขายกมือขึ้นตบหลังคนตัวใหญ่กว่าเบาๆ อย่างปลอบประโลม ก่อนจะเลื่อนขึ้นมาลูบเส้นผมนุ่มมือ
“ฉันนึกว่านายจะพังจนซ่อมไม่ได้แล้ว รู้ไหมว่าฉันตกใจมากที่เจอนายสภาพนั้นน่ะ เจ้าบ้า! นายไปทำอะไรมา!?”
ริวก่นด่าเสียงสั่นทั้งที่ยังกอดตัวกาคุไว้แน่น และยังแน่นมากขึ้นไปอีกราวกับกลัวว่าอีกคนจะพังสลายไปซะก่อน
“อย่ากอดแน่นสิ ยังเจ็บ..” กาคุเบ้หน้าน้อยๆ แต่ที่ใบหน้ายังคงแต้มรอยยิ้มจางๆ
ทั้งสองคนผละออกจากกัน กาคุจ้องเข้าไปในดวงตาสีทองที่สั่นไหวเล็กน้อย หน้าตาริวตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับเด็กเล็กๆ ที่กลัวว่าจะเสียของเล่นชิ้นสำคัญไปเลยสักนิด กาคุมองอีกคนตอบอย่างเอ็นดู พลางเกลี่ยเส้นผมสีน้ำตาลให้ออกจากใบหน้าสีแทน
“ไปเช็คหอนาฬิกามาน่ะ แล้วพลาดนิดหน่อย ตกใส่กองเหล็กที่มันสุมๆ กันอยู่”
“กาคุคนบ้า! บอกแล้วใช่ไหมว่าให้ระวัง ตรงนั้นมันอันตรายจะตาย ถ้าเหล็กพวกนั้นมันเสียบนายขึ้นมาจะทำยังไงหา!!!??”
รอบนี้ริวตวาดแหวมากยิ่งขึ้น ดวงตาทั้งสองรื้นน้ำตาเล็กน้อยจนคนมองสะอึกไป ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างของกาคุก็ถูกริวกดทับให้จมลงกับเตียง ก่อนที่ใบหน้าจะสัมผัสได้ถึงความชื้นแฉะที่สัมผัสลงมาทั่วใบหน้า
“หน้านายมันไม่ควรมีแผลเลยรู้ไหม”
แผลถลอกตามใบหน้ากาคุ ถูกริวพรมจูบไปจนทั่ว กาคุครางรับในลำคออย่างพึงพอใจก่อนจะประสานสายตาเข้ากับอีกคนที่ผละริมฝีปากออกจากใบหน้าเขา
“ฉันไม่ได้มีแผลแค่ที่หน้านะ” กาคุยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ริวที่เห็นดังนั้นเริ่มรู้สึกตัวว่าเผลอทำอะไรลงไป ใบหน้าแดงก่ำขึ้นเตรียมผละตัวออก
แต่เหมือนคนที่กำลังจะได้ใจเตรียมรับมือไว้อยู่แล้ว ท่อนแขนเพียงข้างเดียวโอบรอบเอวหนาของคนด้านบนไว้แน่น ก่อนจะยกอีกข้างมาชูไว้ข้างหัวตัวเองเพื่อให้ริวได้เห็นชัดๆ
“นี่ แขนฉันก็มี ท้องฉันก็ด้วย อืม..ตรงไหนอีกนะ จริงๆ นายน่าจะจำได้ดีนี่ริว” กาคุว่าทีเล่นทีจริง ก่อนจะทำหน้าเหมือนคนเพิ่งนึกอะไรออก “เนี่ย รู้สึกหน้าฉันตรงที่นายจูบมา มันดีขึ้นนะ เพราะฉะนั้น…”
“อย่ามาได้ใจนะ อื้อ…!”
เสียงทักท้วงที่ไม่มีแววจริงจังเลยสักนิดของริวกลืนหายเข้าไปในลำคอเมื่อริมฝีปากถูกประกบปิดด้วยริมฝีปากร้อนชื้นของกาคุ ริวที่คิดจะถอนริมฝีปากออกกลับทำไม่ได้อย่างใจนึกเมื่อฝ่ามือของกาคุล็อคลำคอเขาเอาไว้จากด้านหลัง กดท้ายทอยเข้ามาให้รับจูบจากเจ้าตัวแนบแน่นขึ้นจนไร้ทางหนี
สุดท้ายริวจึงได้แต่ปิดตาลงรับจูบจากอีกคน สัมผัสได้ถึงลิ้นร้อนที่แทรกผ่านเข้ามาตามรอยเผยอของริมฝีปาก ลิ้นอุ่นร้อนกวาดวนลูบไล้ตามลิ้นเย็นชื้นของริวราวกับจะส่งผ่านความร้อนไปให้กัน ฝ่ามือสีแทนขยุ้มเข้ากับปกเสื้อของกาคุแน่นยามที่ใบหน้าคมคายเอียงเปลี่ยนองศาให้สามารถจูบได้สะดวกยิ่งขึ้น
เสียงอะไหล่ในตัวกาคุปกติแล้ว แต่ตอนนี้อาจจะเป็นเสียงหัวใจของพวกเขาทั้งสองเองก็ได้ที่มันเปลี่ยนไป
จากที่ทีแรกว่าจะเพียงจูบทำโทษ แต่พอได้สัมผัสกับความหวานไม่รู้เบื่อจากโพรงปากของช่างซ่อมประจำกาย กาคุก็ยิ่งรุกเร้าหนักมากขึ้น ขยับเบี่ยงใบหน้าไปเรื่อยๆ ทั้งยังกวาดต้อนฉกชิงความหวานในโพรงปากนั้นจนร่างสูงใหญ่อ่อนระทวยส่งครางเสียงหวานในลำคอออกมารอบแล้วรอบเล่า
บางที..อาจจะต้องเลื่อนขั้น จากจูบลงโทษธรรมดา เป็นอะไรที่มากกว่านั้น
___________________________
กาคุมันร้ายยมากกกค่ะแม่!! ร้ายยกาจจจจจจจจจจ